"หลวงปู่บุญมา ปภากโร" พระอริยสงฆ์ที่ปล่อยวางละแล้วซึ่งกิเลสตัณหา ถือสันโดษ มักน้อย พูดน้อย ถ่อมตน มีเมตตาธรรมสูง เป็นพระผู้มีแต่ให้ หากใครได้ไปกราบไหว้หรือได้สัมผัสใกล้ชิดท่าน จะมีความรู้สึกว่าท่านมีความเมตตาอย่างสูง ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง อนุเคราะห์ช่วยเหลือทุกคนเท่าเทียมกันหมด สมแล้วกับสมญานาม "หลวงปู่บุญมา เทพเจ้าแห่งความเมตตา" วัดถ้ำโพงพาง ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร
หลวงปู่บุญมา ถือกำเนิดเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2469 ตรงกับปีขาลขึ้น 12 ค่ำ เดือน 1 (อ้าย) อัฏฐศก จ.ศ.1288 (ร.ศ.145) อธิมาส (เดือน 8 สองหน) ณ บ้านโคกสะบ้าหนึ่ง หมู่ที่ 4 ต.นาบินหลา อ.เมือง จ.ตรัง
เมื่ออายุได้ 15 ปี เข้าบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดใกล้บ้าน และศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี และในขณะที่บวชเณรได้ 5 พรรษา มีอายุครบ 20 ปีบริบุูรณ์ ต้องเข้ารับการคัดเลือกทหาร และจับได้ใบดำต้องรับราชการทหารอยู่ 2 ปี หลังปลดประจำการได้ครองเรือนตามวิสัยฆราวาส จนมีอายุได้ 25 ปี จึงอุปสมบทที่วัดปากจ่า ต.ควนโส อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เมื่อปี พ.ศ. 2494 โดยมีพระครูพิทักษ์ธรรมคุณ (เลี่ยม จันทสโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์พร้อม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์คล้าว กตปุญโญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ปภากโร" ซึ่งมีความหมายว่า "ผู้ทำแสงสว่างให้เจิดจ้า"
หลวงปู่บุญมาได้จำพรรษาและศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ที่วัดปากจ่า จนสอบได้นักธรรมตรี โท เอก ตามลำดับ และได้ฝึกปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์เกลื่อน วัดชายนา จ.นครศรีธรรมราช ต่อมาได้เดินทางมาศึกษาวิชาวิปัสนากรรมฐานที่วัดมหาธาตุกรุงเทพฯ จนถึงปี พ.ศ.2500 ได้ติดตามพระอาจารย์แป้น ธัมมสโร ออกธุดงควัตรเป็นเวลา 3 ปี จนมีวิชาแก่กล้าจึงขอลาพระอาจารย์แป้น เพื่อธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ อาทิ ลงภาคใต้ ไปภาคเหนือ อิสาน และธุดงค์เข้าประเทศพม่า ลาว เขมร เป็นต้น ในช่วงเวลาธุดงค์อยู่ทางภาคใต้ ได้ฝากตัวเป็นศิษย์และศึกษาวิชาจากหลวงพ่อคล้าย วัดสวนขันด้วย
อนึ่งในช่วงที่ท่านเดินธุดงค์ไปที่เขาชัยสน จ.พัทลุง ในคืนหนึ่งขณะนั่งสมาธิได้นิมิตเห็น ในบริเวณป่าเขาที่อยู่ไม่ไกลจากที่นั่งนี้มีเหวลึก ในเหวนั้นมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์และเจดีย์อยู่ รุ่งเช้าท่านจึงเดินทางไปดูตามนิมิตก็เห็นเป็นจริงตามนั้น
อีกครั้งหนึ่งหลังจากท่านนั่งสมาธิตามปกติ เมื่อจิตหยั่งลงสู่สมาธิเป็น “เอกจิต” แล้ว ท่านได้เห็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จมาหา โดยพระองค์ได้ตรัสกับท่านว่า “ท่านบุญมา มาอยู่ที่นี่แล้ว ไม่รู้อะไรดอกหรือ” ท่านได้ถวายพระพรถามไปว่า “มหาบพิตรมีอะไรดี ก็ขอบอกแก่อาตมาบ้าง” พระองค์ตรัสว่า “ถ้าอย่างนั้นก็คอยจดจำไว้ให้ดี ฉันจะบอกให้ คาถานี้เป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ที่ฉันได้ใช้มาตั้งแต่ยังผนวชเป็นพระภิกษุอยู่” ในนิมิตนั้นท่านได้เห็นแผ่นป้ายหินชนวนขนาดใหญ่สีดำ รัชกาลที่ 4 ได้เขียนพระคาถาให้ท่องจำซึ่งมีทั้งหมด 11 พระคาถา มีชื่อว่า “รัตตนัตตะยะปะภาวาภิยาจะนะคาถา” พระองค์ทรงใช้มาตั้งแต่ครั้งผนวชอยู่ที่วัดสมอราย (วัดราชาธิวาส) และเมื่อทรงย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศ ก็ทรงใช้เจริญภาวนามาจนถึงวันที่ทรงลาผนวชออกมาครองราชย์ และใช้ภาวนาสวดมนต์จนถึงวันสุดท้ายของพระชนม์ชีพ
ทั้งนี้ หลวงปู่บุญมาท่านได้ยึดพระคาถาของรัชกาลที่ 4 มาเป็นแนวปฏิบัติควบคู่ไปกับปฏิปทาของพระอาจารย์คือ หลวงปู่สงฆ์วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของประชาชนโดยทั่วไป
หลวงปู่บุญมาได้เดินธุดงค์มาถึงปี พ.ศ.2506 ได้เดินธุดงค์มาถึงวัดเจ้าฟ้าศาลาลอย อ.เมือง จ.ชุมพร จึงได้เข้ากราบนมัสการหลวงปู่สงฆ์ และได้สนธนาธรรมกับหลวงปู่สงฆ์ จนเกิดความเลื่อมใสในบารมีธรรมของหลวงปู่สงฆ์เป็นอย่างมาก จึงฝากตัวเป็นศิษย์อยู่ศึกษาวิชากับหลวงปู่สงฆ์ เป็นเวลา 3 เดือน หลวงปู่สงฆ์จึงแนะนำให้หลวงปู่บุญมาหยุดเดินธุดงค์ และให้อยู่จำพรรษาที่วัดถ้ำโพงพาง ซึ่งเป็นวัดร้างแต่มีบรรยากาศร่มรื่น เหมาะแก่การวิปัสนากรรมฐาน อยู่ที่อ่าวทุ่งมะขาม ต.หาดทรายรี อ.เมืองจ.ชุมพร ด้านหน้าติดชายทะเลมีธรรมชาติที่สวยงาม ด้านหลังติดเชิงเขา มีถ้ำธรรมชาติอยู่ 2 แห่ง ซึ่งวัดนี้หลวงปู่สงฆ์เคยมาจำพรรษาวิปัสนากรรมฐานภายในถ้ำของวัดนี้ เพื่อให้หลวงปู่บุญมาช่วยพัฒนาวัดเพื่อเป็นเสาหลักให้ชาวบ้านได้ยึดเหนี่ยว หลวงปู่บุญมาจึงรับปากตกลงที่จะจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้จวบจนปัจจุบัน
ในด้านวิชาอาคมท่านได้รับการถ่ายทอดจากหลวงปู่สงฆ์ และไปฝากตัวเป็นศิษย์ของพ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน
ส่วนการสร้างวัตถุมงคล หลวงปู่บุญมาได้จัดสร้างวัตถุมงคลมาแล้วหลายรุ่น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ เป็นที่กล่าวขานว่าดีทางด้านโชคลาภ เมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัย คงกระพันชาตรี คุ้มครองป้องกันภัย ค้าขายเจริญรุ่งเรือง (ขอบคุณที่มา: www.tnews.co.th)
และจากตำนานที่เล่าขานกันถึงประวัติหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ได้เหยียบน้ำทะเลจืดนั้น จากการคาดคะเนของนักวิชาการและนักประวัติศาสตร์ คาดว่า หลวงปู่ทวดได้เหยียบน้ำทะเลจืดในบริเวณทะเลเขตจังหวัดชุมพร ทางวัดถ้ำโพงพาง จึงได้จัดสร้างเหรียญหลวงพ่อทวดพิมพ์เสมาหน้าเลื่อนหลังหลวงปู่บุญมา ปภากโร รุ่นแรกขึ้น วัตถุมงคลรุ่นนี้ เน้นคุณวิเศษทางด้านเมตตามหานิยม โชคลาภค้าขายดี หน้าที่การงานก้าวหน้า เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง ปลดหนี้สิน คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย เรียกว่าครอบจักรวาลเลยทีเดียว เฮง เฮง เฮง
ส่วนวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อนำปัจจัยร่วมสมทบทุนสร้างซุ้มประตูวัดถ้ำโพงพางให้แล้วเสร็จ
"เหรียญหลวงพ่อทวด หลวงปู่บุญมา หน้าเลื่อน รุ่นแรก รุ่นปลดหนี้ เฮง เฮง เฮง เนื้อนวะโลหะหน้าเงิน" หลวงปู่บุญมา ปภากโร ยอดพระเกจิอาจารย์ผู้เคร่งเพียรวิปัสสนากรรมฐาน ปลุกเสกเดี่ยวอย่างเข้มขลัง เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2556 จำนวน 199 เหรียญ
กอบทรัพย์พระใหม่ (www.kobsub.com)
โทร.081-661-9989, 083-956-6942
Email:kobsub@hotmail.com
LINE ID:kobsub