kobsub.com
ปฐวีธาตุ องค์ที่ 10 สัณฐานเขี้ยวพญานาค หลวงปู่คำพั...
ռ٪ǤѺ THB

ปฐวีธาตุ (ธาตุกายสิทธิ์) แห่งลุ่มแม่นำโขง

กายสิทธิ์ คือคำที่ใช้เรียกจิตของผู้ทรงอภิญญาที่ฝึกฝนจิตจนกระทั่งได้ฌาณสมาบัติเมื่อสิ้นอายุขัย แต่ยังต้องการบำเพ็ญเพียรทางจิตต่อไปในโลกมนุษย์ (หรือเพราะต้องทำหน้าที่บางประการ) จึงต้องละจากสังขารเดิมแล้วเข้าอาศัยในบางสิ่ง เช่น รัตนชาติ (กายสิทธิ์จึงไม่ใช่เทวดา แต่เป็นผู้ทรงอภิญญา)

ธาตุกายสิทธิ์ เป็นธาตุที่มีพลังและอิทธิฤทธิ์ในตัวเอง โดยธรรมชาติแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามธาตุทั้ง 4 คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ ธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีคือ เหล็กไหลซึ่งเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธาตุดิน มีกายสิทธิ์เข้าไปถือครอง นอกจากเหล็กไหลแล้ว กายสิทธิ์อาจถือครองในหินหรือรัตนชาติ (หินที่มีค่า เช่น หินเขี้ยวหนุมาน เพชร เป็นต้น)

ธาตุกายสิทธิ์จะปรากฏต่อเมื่อมีผู้ทรงคุณวิเศษปฏิบัติได้ถึงขั้นกายสิทธิ์ เช่น ปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต แห่งวัดเทพศิรินทราวาส คือก้อนกรวดใต้น้ำที่ท่านเจ้าคุณนรฯ บอกให้คุณปลัดโกศล หลานชายท่านฯ นำมาจาก อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ห้ามเก็บจากที่อื่นเนื่องจากที่นั่นได้มีพญานาคราชได้ถวายกายสิทธิ์ให้แก่ท่าน และได้อธิษฐานจิตให้พร้อมทั้งได้อธิบายให้คุณปลัดโกศลฟังว่า "ก้อนกรวดนี้ขลังมาก สามารถที่จะคุ้มครองป้องกันนิวเคลียร์ และป้องกันไฟได้" เป็นของสิ่งแรกที่ท่านได้อธิษฐานจิตโดยการนั่งหันหน้าเข้าหาสิ่งของนั้น เมื่อท่านเจ้าคุณนรรัตน์ท่านจะละสังขารท่านได้เคยบอกกับลูกศิษย์ของท่านไว้ว่า "ช้างเผือกเกิดขึ้นทางฝั่งโขง สามารถเสกปฐวีธาตุได้เหมือนเฉกเช่นเดียวกับท่าน"

ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม คือหินที่อยู่ในน้ำที่ผ่านการเจียรไนจากธรรมชาติเป็นร้อยเป็นพันปี จนใสแสงผ่านได้ เมื่อเอามือไปบังที่ก้อนปฐวีธาตุจะแลเห็นและต้องเป็นหินจากใต้แม่น้ำโขง ณ ตำแหน่งบริเวณที่ท่านได้กำหนดบอกให้ไปเก็บเท่านั้น เนื่องจากพญานาคราชได้ถวายให้ท่านดุจเดียวกัน หินที่ได้รับการถวายจากพญานาคราชนี้ถือเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธาตุลมมีกายสิทธิ์ฝ่ายสัมมาทิฐิเข้าครอง ซึ่งส่วนใหญ่กายสิทธิ์เหล่านี้จะบรรลุธรรมขั้นสูง อีกทั้งได้รับการอธิษฐานจิตจากพระเถระเจ้าที่ทรงคุณวิเศษ จึงกล่าวได้ว่ามีอิทธิปาฎิหาริย์ และพุทธานุภาพเหนือชั้นกว่าเหล็กไหลและให้คุณแก่ผู้ครอบครอง ล้วนแล้วแต่สร้างอภินิหารและประสบการณ์ให้กับผู้บูชานับจำนวนไม่ถ้วนทั้งเรื่องแคล้วคลาด คงกระพัน ปลอดภัย โชคลาภ และเมตตามหานิยม นำไปแช่น้ำทำน้ำมนต์แก้คุณไสยได้ ถ้าจะให้ได้ผลดีควรให้ได้สัมผัสไอตัวผู้ใช้ให้มากที่สุด

ปฐวีธาตุ หรือ พระเพชร แห่งลุ่มแม่น้ำโขง หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย นครพนม

ย้อนไปเมื่อสมัยท่านเจ้าคุณนรฯ ยังทรงสังขารอยู่ ท่านเคยปรารภว่า พระรูปเหมือนนั่งใบโพธิ์ของท่านประสบความสำเร็จ (คือมีคนนิยมมาก) ต่อไปจะมีผู้สร้างพระใบโพธิ์อีกมากมายแต่ไม่ประสบความสำเร็จดังเช่นของท่าน หากจะมีพระทางภาคอีสานรูปหนึ่ง ประสบความสำเร็จในพระรูปเหมือนใบโพธิ์เช่นของท่าน แต่พระรูปนั้นจะต้องอธิษฐานจิตปฐวีธาตุได้ด้วย จึงได้เกิดการตามหาพระรูปนั้นหลังจากที่สิ้นท่านเจ้าคุณนรฯ ไปแล้ว

หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย จ. นครพนม คือพระรูปนั้น ท่านได้ทำปฐวีธาตุแจกศิษย์มาแต่ปี พ.ศ. 2495 ก่อนท่านเจ้าคุณนรฯ เสียอีก ท่านได้เล่าให้ฟังว่า ท่านได้รับตำราการอธิษฐานจิต “ปฐวีธาตุ” มาตั้งแต่ยังเป็นพระหนุ่ม โดยได้มีชายผู้หนึ่งได้นำมาถวายให้ท่านตามคำสั่งเสียของบิดาก่อนตาย โดยบิดาของชายผู้นั้นได้สั่งกำชับบุตรชายไว้ว่า เมื่อพ่อตายแล้วจงเอาคัมภีร์เล่มนี้ไปมอบให้กับหลวงพ่อคำพันธ์แต่เพียงรูปเดียวเท่านั้น ซึ่งตำราเล่มนั้นเขียนด้วย “ตัวธัมใหญ่” ทั้งหมดซึ่งถือว่าเป็นอักขระที่มีความศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ใช้จารเฉพาะตำราชั้นสูงเท่านั้น เป็นตำราที่ว่าด้วยการ “อธิษฐานปฐวีธาตุ” สามารถทำธาตุธรรมชาติธรรมดาให้มีอานุภาพ มีพลังงานขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ท่านจึงศึกษาวิธีการจนแตกฉาน จดจำได้ทุกขั้นตอน ในเวลาต่อมาก็มีพระภิกษุรูปหนึ่งมาขอตำรานั้นไป ท่านก็กรุณามอบให้ ทุกวันนี้ยังไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใคร

หลวงปู่คำพันธ์ได้เมตตาอธิบายถึงคุณลักษณะของปฐวีธาตุที่ถูกต้องตามตำราทุกประการว่า ต้องเป็นกรวดที่แช่อยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติเท่านั้น จะอยู่บนบกไม่ได้ ตัวกรวดเมื่อเก็บขึ้นมาต้องมีลักษณะเดิมตามธรรมชาติของเขา จะบิ่น จะแตกหักหรือร้าวไม่ได้เลย ที่สำคัญสุดยอดคือต้อง “โปร่งแสง” เท่านั้น และด้วยคุณลักษณะเช่นนี้เองที่ทำให้ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์เป็นของหายากที่สุด แม้ว่าทางวัดจะพยายามแก้ไขด้วยการนำกรวดจากแม่น้ำโขงชนิดขุ่นมาถวายท่านอธิษฐานแทนก็ตาม แต่ก็หาถูกต้องตามตำราบังคับไม่ หากท่านก็อนุโลมให้เป็นปฐวีธาตุได้เช่นกัน ผิดกับครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ เช่น ท่านเจ้าคุณนรฯ “ปฐวีธาตุ” ของท่านจะต้องได้มาจากอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการเท่านั้น จะใสหรือขุ่น ใหญ่หรือเล็กไม่สำคัญ นอกจากนี้ในตำรายังได้ระบุไว้ว่า ผู้จะอธิษฐานปฐวีธาตุได้นั้นต้องเป็นผู้เดินวิปัสสนาล้วน จะเป็นผู้เล่นทางสายวิชาคือ คาถาอาคมไม่ได้เลย

มูลเหตุของการอธิษฐานจิตปฐวีธาตุ

สืบเนื่องจากในช่วงก่อนปี 2500 บ้านเมืองยังเต็มไปด้วยผู้ก่อการร้าย ทำให้เหล่าทหาร ตำรวจ และข้าราชการต่างๆ มาขอของดีจากท่านเอาไว้คุ้มตัว ท่านจึงได้ให้เหล่าทหารและชาวบ้านไปเก็บหินในแม่น้ำโขงมาให้ท่านอธิษฐานจิต ท่านบอกว่า ท่านเสกด้วยพระคาถาชินบัญชรเช่นเดียวกับปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรฯ แล้วเสกหนุนธาตุต่างๆ ตั้งให้เป็นองค์พระ และธาตุปฐวีคือ ธาตุหินนี้แกร่ง ท่านจึงเรียกปฐวีธาตุของท่านว่า “พระเพชร"

หลวงปู่คำพันธ์ ท่านเก่งในการคุมธาตุสี่ น้ำ ดิน ลม ไฟ จนเป็นที่ยอมรับโดยทั่ว หลวงปู่โต๊ะ แห่งวัดประดู่ฉิมพลี ก็อีกรูปหนึ่งเมื่อท่านนำ "ปฐวีธาตุ” มาเสกก็จะเรียกธาตุ 4 ทีละธาตุแล้วรวมธาตุเป็นหนึ่ง เสกบรรจุลงในก้อนปฐวีธาตุนั้น เมื่อนำมาใช้ธาตุสี่ในตัวเราก็จะผสานกับปฐวีธาตุนั้น สรรพคุณสุดแท้จะอธิษฐานเอา ในเวลาอธิษฐานปฐวีธาตุหลวงปู่ท่านจะอธิษฐานว่า ให้ป้องกันภัยอันจะเกิดแต่ธรรมชาติก็ดี ภัยอันเกิดแต่มนุษย์ก็ดี กันได้ทั้งสิ้น กันภัยจากอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกชนิดที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะมีขึ้นในอนาคต ท่านเรียกการอธิษฐานแบบนี้ว่า “เสกครอบลงไป” การเสกแบบนี้ไม่เหมือนกับการเสกพระเครื่องทั่วไปของท่าน ท่านจึงย้ำว่า “ปฐวีธาตุนี้เป็นของที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ ”

หลวงปู่คำพันธ์ท่านเคยกล่าวกับลูกศิษย์ถึงอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของปฐวีธาตุของท่านว่า คุ้มครอง คุ้มภัย กันฟ้า กันไฟ ปฐวีธาตุแห่งแม่น้ำโขงนี้เป็นธาตุเย็น อานุภาพแห่งองค์พระเพชรสามารถป้องกันภัยอันเกิดจากรังสีความร้อนที่จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันได้

การบูชาปฐวีธาตุ หลวงปู่สั่งว่า เมื่อได้มาแล้วถ้าจะบูชาติดตัวก็พยายามเลี่ยมแบบเปิดหน้า เปิดหลังให้ปฐวีธาตุได้สัมผัสกับไอของร่างกาย ธาตุจะดึงดูดซึ่งกันและกัน ปรารถนาสิ่งใดก็ให้ตั้งจิตเอา ปฐวีธาตุช่วยได้ แต่ถ้าบูชาอยู่กับบ้าน ให้เอาปฐวีธาตุแช่น้ำสะอาดตั้งบูชาไว้บนที่สูงหรือที่อันควร ใส่น้ำอบ น้ำหอม ผสมลงในน้ำเป็นการบูชา ลอยด้วยดอกมะลิหรือดอกไม้หอมอื่นก็ได้ จุดธูปบูชา 7 ดอก สวดบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แล้วต่อด้วยพระคาถานี้

“หิตะหิรา มันทิโล กะสิรา กะละลาสติ โสจะถิโห คะเนตะเน” (3 จบ)

แล้วตั้งจิตระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณมารดา บิดา คุณครูบาอาจารย์ พระคุณของหลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ เหล่าพญานาคผู้รักษาองค์พระธาตุพนมและพระธาตุมหาชัย และทั้งที่สถิตอยู่ในลำน้ำโขง เพื่อที่จะได้น้ำนั้นเป็นน้ำมนต์ นำมาดื่มกินหรือประพรมบ้านเรือนก็เป็นมงคลยิ่ง หากปรารถนาสิ่งใดก็อธิษฐานเอา ด้วยจิตที่มุ่งมั่นต่อพระรัตนตรัย และเดชานุภาพของปฐวีธาตุจักบันดาลให้เกิดความสำเร็จในไม่ช้า หลวงปู่บอกว่า ปฐวีธาตุมีคุณวิเศษครอบจักรวาลมีทุกข์ร้อนสิ่งใดก็ให้บอกกล่าว สามารถช่วยเหลือได้จริง

การลอยดอกไม้ในน้ำให้ทำเฉพาะวันพระ เมื่อหมดวันพระแล้วให้ช้อนดอกไม้ออกอย่าให้เน่าเสียคาภาชนะเด็ดขาด น้ำหล่อปฐวีธาตุถ้าจะเปลี่ยนให้นำไปประพรมบ้านเรือนหรือสาดขึ้นหลังคาบ้านจะเป็นสิริมงคลยิ่งนัก กันภัยนานาชนิด

หมายเหตุ การที่หลวงปู่ท่านให้แขวนแบบเปิด ไม่ได้หมายความว่ากลัวพุทธคุณจะออกมาไม่ได้ แต่เป็นวิธีการ "ใช้งาน" ในแบบเฉพาะของวัตถุมงคลประเภทนี้ ที่ทำแบบนั้นก็เพราะต้องการให้กระแสธาตุในร่างกายเราได้สัมผัสกระแสธาตุในองค์ปฐวีธาตุ พลังงานในปฐวีธาตุน่ะออกมาหาเราได้ แต่พลังงานในกายเราเข้าไปหาเขาไม่ได้ จึงจำเป็นที่จะต้อง "เลี่ยมเปิด" เพื่อสงเคราะห์ตัวเราเอง ไม่ใช่เพื่อช่วยเหลือท่าน

ปฐวีธาตุต่างกับพระเครื่องอย่างไร

ปฐวีธาตุต่างจากพระเครื่องตรงที่กรวดจากแม่น้ำโขงซึ่งหลวงปู่นำมาอธิษฐานเหล่านั้น พวกนาคเขาถือว่าเป็นสมบัติอย่างหนึ่งของเขา กรวดเหล่านั้นจึงมีพลังงานของพวกเขาติดมาด้วย และเมื่อได้รับการอธิษฐานด้วยกระบวนการทางจิตที่ซับซ้อนอย่างยากที่เราจะเข้าใจ ก็จะทำให้กรวดเหล่านั้นเกิดพลังงานมหาศาลชนิดที่เราก็ไม่เข้าใจอีกอยู่ดีว่าเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร

พลังงานมหาศาลที่ว่านี้ หลวงปู่คำพันธ์รับรองว่า กันนิวเคลียร์ได้

เมื่อปฐวีธาตุซึ่งมีพลังงานแฝงอยู่แล้ว ได้รับการอธิษฐานจากจิตที่มีพลังงานมหาศาลเพราะได้รับการฝึกฝนมาดีเยี่ยม พุ่งกระแสลงไปสู่หินเป็นจุดเดียว กระแสจิตที่แรงกล้าเกิดกระทบกับพลังงานที่อยู่ในหินแล้วกระจายตัวออกเป็นวงกว้าง เป็นคลื่นรังสีที่มีพลังงานแรงสูง พอที่จะให้ความคุ้มครองผู้บูชาตามที่ผู้อธิษฐานได้ "ตั้งโปรแกรม” ไว้

นอกเหนือไปจากหมู่นาคทั้งหลายที่จะขึ้นมาพิทักษ์รักษาผู้ครอบครองปฐวีธาตุเมื่อยามเกิดภัยพิบัติตามคำทำนาย ชนิดปฐวีธาตุ 1 องค์ ต่อพญานาค 1 ตน ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวไม่อาจมีในพระเครื่องที่ถูก "สร้าง" ขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์ ผิดกับ "ปฐวีธาตุ" ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นจากผลงานของธรรมชาติ จึงเก็บประจุพลังงานจากธาตุทั้งสี่และรังสีจากจักรวาลมาเนิ่นนานนับได้เป็นล้านๆ ปี

ครูบาอาจารย์ผู้มีจิตอัศจรรย์เข้าถึงหลักธรรมชาติอย่างถ่องแท้จึงมักทำปฐวีธาตุให้ศิษย์ อาทิ ท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์, หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล, หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม และท่านพ่อเมือง พลวัฑโฒ วัดป่ามัชฌิมวาส

ซึ่งก็ตรงตามที่หลวงปู่คำพันธ์เคยบอกว่า "ผู้ที่จะอธิษฐานปฐวีธาตุได้นั้น ต้องเป็นผู้เดินวิปัสสนาล้วน จะเป็นผู้ที่มาทางสายวิชาอาคมไม่ได้เลย" และนี่คือสาเหตุที่ว่าทำไม "ปฐวีธาตุ" จึงมีความแตกต่างจากพระเครื่องมากมายนัก

ปฐวีธาตุ องค์ที่ 10 สัณฐานเขี้ยวพญานาค หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม ขนาดยาว 2.8 ซ.ม. กว้าง 1 ซ.ม. หนา 0.8 ซ.ม.

กอบทรัพย์พระใหม่ (www.kobsub.com)

โทร.081-661-9989, 083-956-6942

Email:kobsub@hotmail.com

LINE ID:kobsub


ดูตะกร้าสินค้า