ผงนะนาคกระสันธรณี องค์ครู เกิดจากการนำผงมวลสารต่างๆ มาบดรวมกัน ปั้นให้เป็นแท่งชอล์กเขียนกระดานดำ แล้วจึงนำมาเขียนวิชานะนาคกระสันธรณีองค์ครูในกระดานลบผง แล้วเสกเรียกตัวนะให้บังเกิดกำเนิดเป็นนะนาคกระสันธรณีองค์ครู เสกเรียกฤทธิ์ของนะให้บังเกิดเป็นกายสิทธิ์ เขียนเสกแล้วลบ เขียนเสกแล้วลบ อยู่อย่างนั้น การลบผงในสมัยโบราณถือว่ามีความสำคัญ ผงที่ลบถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ผงที่ลบเกิดจากการลบนะวิเศษที่ต้องเขียนตามกลบทเรียกสูตรเรียกนามให้บังเกิดมีชีวิต จิตวิญญาณ เสกเพิ่มฤทธิ์เสร็จแล้วจึงลบผงนั้นๆ มาสร้างพระหรือทำวัตถุมงคลต่างๆ คณาจารย์ในสมัยก่อนจึงหวงแหนผงที่ลบมาก ในส่วนผงนะนาคกระสันธรณีที่มีคุณทางเสน่ห์ เมตตา ค้าขาย โลกีย์ อย่างสุดๆ และผงที่ลบนำไปใช้ทำอะไร ในสมัยก่อนคนที่เล่นทางไสยเวทย์เครื่องราง ผงสามารถนำไปผสมสิ่งต่างๆ ให้คนทั้งหลายกินให้บังเกิดมารักเรา ผัดหน้าโดยผสมแป้งหอม ผสมน้ำจุมเจิมของเป็นมงคลค้าขายดี ผงเปรียบเสมือนพระหรือตระกรุด ขนาดพระคณาจารย์บางองค์สร้างพระที่เก่งๆ ขลังๆ เช่นหลวงพ่อกวย จะสั่งคนที่รับไปห้ามขูดผงที่พระให้คนอื่นกินเป็นอันขาด คนที่บูชาผงนะนาคกระสันธรณีไปก็หาวิธีการใช้ตามแนว ผงมาซึ่งผงนั้นๆ กว่าจะได้มาซักขวดนี่ใช้เวลานานมากๆ เขียนไป เสกไป ลบไป ตามสมัยโบราณถือว่าเป็นของสำคัญ พระคณาจารย์จะไม่นิยมให้ศิษย์เพราะผงที่เกิดจากการลบผงแบบนี้มีอานุภาพมากและระยะเวลาการเรียกการเสกใช้เวลานาน ผงที่ลบได้มีจำนวนน้อยจึงเป็นที่หวงแหน วิชานะนาคกระสันธรณีเป็นวิชานะทางสายเทพเจ้าบุราณ ต้นวิชาคือ ครูย่าเคลือ พันธ์บ้านแหลม ถ่ายทอดให้ท่านตาโพธิ์ (ท่านอาจารย์โพธิ์แดง เจริญรัตน์) สำนักพรหมศาสตร์เทพเจ้าบุราณ ท่านเป็นครูใหญ่ในสายวิชานาคกระสันธรณี
คาถาบูชา "สุคะตัง สังวาสัง"