พระครูอาภัสศีลคุณ (พระปลัดทวี) วัดบ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ท่านเป็นหลานหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ในสมัยที่ท่านเป็นพระลูกวัดกำลังศึกษาพระปริยัติธรรมอยู่ที่วัดบ้านกร่าง ซึ่งพระขุนแผนของที่นี่เป็นพระกรุที่มีชื่อเสียง ครั้งหนึ่งในราว พ.ศ.2479 ท่านได้ลงไปในกรุพระและได้พบกับเศษพระแตกหักเป็นจำนวนมาก จึงได้ให้คนรวบรวมไว้พร้อมทั้งดินกรุ ว่ากันว่ามีจำนวนถึง 1 โอ่งมังกร อีกหลายปีต่อมาท่านจึงคิดดำริที่จะสร้างพระเครื่อง และได้รวบรวมมวลสารต่างๆ ที่เชื่อว่าเป็นมงคล เช่น
1. พระเครื่องก้นกรุวัดบ้านกร่าง ที่แตกหัก จำนวน 1 โอ่งมังกร เป็นมวลสารหลัก และดินก้นกรุ
2. ดิน 7 โป่ง ดินขุยปู 7 ทุ่ง
3. ดินสังเวชนียสถาน 4 ประเทศอินเดีย
4. ดินกรุพระซุ้มกอกำแพงเพชร
5. พระรอดมหาวันที่แตกหัก และดินก้นกรุพระรอดมหาวัน จ.ลำพูน
6. ดิน ผงธูป เกษรดอกไม้ จากวัดพระธาตุดอยสุเทพ และวัดอื่น ๆ ทางภาคเหนือ
7. ผงวิเศษ และผง 108 จากหลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
8. ผงวิเศษจากพระเมธีธรรมสาร (หลวงพ่อไสว) วัดบ้านกร่าง
9. ผงวิเศษจากหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
10. ดิน ผงธูป เกษรดอกไม้ จากทางภาคอีสาน วัดใน จ. ขอนแก่น, พระธาตุช่อแฮ จ.แพร่ และอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี
11. พระเนื้อดินจากกรุวัดพระรูป จ.สุพรรณบุรี
12. ผงธูป พระร่วงโรจนฤทธิ์ วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม, วัดพระนอนจักรสีห์ จ.สิงห์บุรี ,พระนอน วัดพระเชตุพนฯ สมเด็จพระศาสดา วัดสุทัศน์ฯ พระอัฏฐารส จ.พิษณุโลก พระเเก้วมรกตในพระบรมมหาราชวัง เจดีย์ภูเขาทอง วัดสะเกศ
13. ดิน ผงธูป เกษรดอกไม้ จากพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์
14. ดิน 7 วัง ได้แก่ วังบางขุนพรม, วังบูรพา, วังสราญรมย์, วังเทเวศร์, วังสุโขทัย ,วังจันทร์เกษม และพระบรมมหาราชวัง
15. ดิน 5 ทัพ ได้แก่ ทัพขุนช้าง ทัพขุนแผน ทัพผึ้ง ทัพหมัน ทัพหลวง
16. ดิน 5 ถ้ำ ได้แก่ ถ้ำมหาสนุก จ.สระบุรี, ถ้ำกินนร จ.สระบุรี, ถ้ำเขาวัง จ.เพชรบุรี, ถ้ำจอมพล จ.ราชบุรี, ถ้ำเขานกจอด จ.กาญจนบุรี
17. ดิน 7 สระ ได้แก่ สระแก้ว, สระคา, สระยมนา, สระเกษ, สระหนองหลวง, สระลาดสิงห์ สุพรรณบุรี, สระโกษิณารายณ์ กาญจนบุรี
18. ดิน 7 ท่า ได้แก่ ท่าช้างวังหน้า ท่าราชวรดิษฐ์ ท่าเสด็จ ท่ามะกา ท่าม่วง ท่านางเริง ท่าวาสุกรี
19. ทราย 7 หาด ได้แก่ หาดบางแสน, หาดพัทยา, หาดหัวหิน, หาดประจวบ, หาดภูเก็ต, หาดเจ้าสำราญ, หาดแหลมสิงห์
เมื่อได้วัตถุมงคลตามข้างต้นแล้ว ปี พ.ศ. 2490 จึงได้เริ่มนำวัตถุมงคลทุกอย่างมาบดให้ละเอียด ร่อน แช่น้ำ และกรอง จนละเอียด เมื่อเดือนห้า พ.ศ. 2490 ทำพิธีบวงสรวงเทพเจ้า เครื่องกระยาสังเวยหมูเห็ดเป็ดไก่ บายศรีปากชาม กล้วยหวีงามครบถ้วนตามพิธีไสย เพื่อเป็นศิริมงคลให้เกิดความขลังและศักดิ์สิทธิ์ ได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ 7 รูป มาเจริญพระพุทธมนต์ พระปริตฯ บริกรรมนวหรคุณ มี
1.หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
2.หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย
3.หลวงพ่อโต๊ะ วัดลาดตาล
4.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
5.หลวงพ่อไสว วัดบ้านกร่าง
6.หลวงพ่อคำ วัดหน่อพุทธางกูร
7.หลวงพ่อเปลื้อง วัดสุวรรณภูมิ
เมื่อทำพิธีเสร็จแล้วก็เริ่มกดพิมพ์ มีพระเณรและฆราวาสที่รับศีลห้าช่วยกันกดพิมพ์ในวิหาร ขณะกดพิมพ์ให้ภาวนา "นะมะพะทะ" หรือ "นโมพุทธายะ" และการเผาได้ก่อเตาพิเศษล้อมด้วยสายสิญจน์โยงมาจากวิหาร และเผาเฉพาะวันเสาร์ให้ถูกต้องตามตำหรับการสร้างพระ จำนวนที่ทำสามแสนกว่าองค์เศษ
เมื่อเดือนห้าปี
จนถึงปี 2492 จึงได้ทำพิธีพุทธาภิเษกก่อนจะนำไปบรรจุกรุเจดีย์เดิม มีพระอาจารย์มาร่วมปลุกเสกดังนี้
1.หลวงพ่อนำ วัดดอนศาลา พัทลุง
2.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
3.หลวงพ่อเปลื้อง วัดสุวรรณภูมิ
4.หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
5.หลวงพ่อแขก วัดหัวเขา
6.หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย
7.หลวงพ่อโต๊ะ วัดลาดตาล
8.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
9.หลวงพ่อคำ วัดหน่อพุทธางกูร
10.หลวงพ่อไสว วัดบ้านกร่าง
มีการแจกผู้ที่มาร่วมงาน แล้วจึงนำบรรจุกรุเจดีย์เดิม
พระครูอาภัสศีลคุณ หรือ พระปลัดทวี รองเจ้าอาวาสวัดบ้านกร่าง (ในสมัยนั้น) ท่านเป็นศิษย์ที่ได้รับการครอบครูจากหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ท่านหนึ่ง ท่านได้รวบรวมพระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่างที่แตกหัก มาบดเป็นส่วนผสมในการจัดสร้างพระขุนแผนขึ้นใหม่ โดยแกะพิมพ์เป็นศิลปะเดิม มีมากมายหลายพิมพ์ โดยสร้างมาตั้งแต่ปี ๒๔๙๓ ทำพิธีพุทธาภิเษกขึ้นหลายครั้ง แต่ละครั้งมีพระเกจิอาจารย์ดังๆ ใน จ.สุพรรณบุรี มาร่วมปลุกเสกมากมาย พระส่วนใหญ่ได้มีการนำมาให้บูชาที่วัดดอนไร่ วัดหนองบัวทอง และบางส่วนได้นำไปบรรจุกรุไว้ พิธีพุทธาภิเษกพระขุนแผนปลัดทวีครั้งหนึ่งในปี ๒๕๐๐ ซึ่งหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ได้รับอาราธนามาปลุกเสก พร้อมกับพระเกจิสุพรรณอีก10 รูป อาทิเช่น หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ,เจ้าคุณไสว วัดบ้านกร่าง ,หลวงตาจวน วัดไก่เตี้ย ,หลวงพ่อโต๊ะ วัดลาดตาล ,หลวงพ่อดี วัดพระรูป ,หลวงพ่อเจริญ วัดหนองนา ,หลวงพ่อฮวด วัดดอนโพธิ์ทอง ,หลวงพ่อสม วัดดอนบุบผาราม ฯลฯ
อิทธิปาฏิหาริย์ต่อไปนี้ คัดมาจากคำบอกเล่าของลุงชนะ ยางขาคีม ในพิธีปลุกเสกท่านหนึ่ง ซึ่งได้คัดลอกมาเพียงบางส่วนจากหนังสือ "พระครูสุวรรณวุฒาจารย์ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่" ฉบับมาตราฐานดังนี้.......
"พอได้เวลาปลุกเสกตามหมายกำหนด พระเถระทั้งหลายก็นั่งประจำอาสนะ ซึ่งหันหน้ารายล้อมพระขุนแผนเนื้อดินเผาที่กองสุมไว้เบื้องหน้า หลวงพ่อทั้งหลายต่างเข้าสมาธิ หลับตาบริกรรมคาถาเพ่งกระแสจิตถ่ายทอดวิชาอาคมออกมาตามกรรมวิธีของแต่ละรูป ครั้นเมื่อเวลาผ่านไปนานนับชั่วโมง พระคุณเจ้าทั้งหลายต่างก็ถอนจิตออกจากสมาธิกันตามลำดับจนครบ คงเหลือแต่หลวงพ่อมุ่ย เพียงรูปเดียวที่ยังไม่ยอมถอนจากสมาธิ คงสำรวมกายอยู่ในฌานอันแน่นิ่งต่อไปอีกเป็นเวลานานโข ท่ามกลางเสียงพูดคุยระงมของญาติโยมและพระคุณเจ้าผู้ร่วมพิธีที่ต่างสนทนากันไปพลางๆ เพื่อรอหลวงพ่อเพียงรูปเดียว อีกราวครึ่งชั่วโมงต่อมา หลวงพ่อก็ขยับกายลืมตาส่งสัญญาณว่ากำลังถอนจากสมาธิ สองมือที่ประสานกันบนหน้าตักทั้งซ้ายและขวาก็คลายออกจากกัน ในทันทีที่มือคลายออกมา หลวงพ่อก็ตบฝ่ามือทั้งสองลงบนเข่าแบบเน้นน้ำหนัก ฉับพลันทันใด พระเนื้อดินและสรรพวัตถุมงคลต่างๆ ในท่ามกลางพระอุโบสถวัดบ้านกร่าง ก็สะท้อนรับแรงพลังขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว กระโดดกระเด็นขึ้นมากระทบกันกราว แผ่ขยายกระจายออกมาตามแรงแห่งกฤตยาคมอันแก่กล้า จากจุดศูนย์กลางแผ่เป็นรัศมีกระจายขยายออกมา ณ เบื้องหน้าอาสนะของหลวงพ่อ ครอบคลุมบริเวณกินเนื้อที่เท่าผืนเสื่อที่ใกล้ๆ ก็กระโดดกระเด็นสูงสักศอกเศษ ที่ไกลออกมาก็ผ่อนกำลังโดดเตี้ยลงตามลำดับ ไม่เว้นแม้แต่ส่วนล่างที่ถูกทับสุมกันไว้ต่างก็ขยับตาม ส่งเสียงกระทบกันเกรียวกราวอย่างน่าอัศจรรย์ และในทันทีที่พระลอยขึ้นมานั้น หลวงพ่อก็ยื่นมือออกมากลางอากาศโดยเร็วพลัน คว้าพระได้จำนวนหนึ่งยัดลงใส่ย่าม ลุกออกมาในทันที ทิ้งไว้แต่ความอัศจรรย์แก่ผู้ที่อยู่ในพิธี ไม่เว้นแม้แต่พระเถระผู้เป็นสหธรรมิกร่วมในพิธีทั้ง 10 รูป โดยก่อนที่จะออกจากพระอุโบสถ พระคุณเจ้าเหล่านั้นต่างเดินอ้อมกองพระมายังหน้าอาสนะของหลวงพ่อมุ่ย นำพระขุนแผนตรงบริเวณดังกล่าวใส่ย่ามไปรูปละ 1 กำมือ จนครบทุกรูป ส่วนบรรดาญาติโยมผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ในครั้งนั้น ต่างก็หยิบพระขุนแผนเอาจำเพาะเจาะจงตรงหน้าอาสนะของหลวงพ่อกันตามอย่าง
กอบทรัพย์พระใหม่ (www.kobsub.com)
โทร.081-661-9989, 083-956-6942
Email:kobsub@hotmail.com
LINE ID:kobsub